วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561


ว่าด้วยเรื่อง “ขนมไทย” มีอยู่มากมายหลายอย่าง วันนี้เราลองมาทำความรู้จักกับขนมไทยแต่ละชนิดกันเถอะค่ะ  ลักษณะเด่นๆของขนมไทยนั้น จะมีรสชาติ หวาน มัน เนื่องจากน้ำตาลมักใช้น้ำตาลมะพร้าวที่มีกลิ่นหอม ส่วนความมันมักใช้กะทิคั้นสด เน้นเอาหัวๆ เมื่อผสม คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้ว จึงเป็นขนมไทยนานาชนิด ที่มีเอกลักษณ์ของความหวาน มัน หอม ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูสูตรและวิธีการทำขนมไทยกันเลยดีกว่าค่าาาาา

วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561

1.บัวลอยสามสหาย

วัตถุดิบบัวลอยเผือก

- เผือกนึ่งบด 75 กรัม 
- แป้งข้าวเหนียว 75 กรัม 
- แป้งมัน 15 กรัม 
- น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร 


วัตถุดิบบัวลอยฟักทอง 

- ฟักทองนึ่งบด 75 กรัม 
- แป้งข้าวเหนียว 75 กรัม 
- แป้งมัน 15 กรัม - น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร




วัตถุดิบบัวลอยใบเตย 

- แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม 
- แป้งมัน 15 กรัม 
- น้ำใบเตย 50 มิลลิลิตร 


วัตถุดิบน้ำกะทิสำหรับราด 

- หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร 
- น้ำตาลทราย 300 มิลลิลิตร 
- เกลือป่น 1 ช้อนชา 
- ใบเตย 1 กำ 
- งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ 
- เผือกนึ่งหั่นเต๋า 100 กรัม 

วิธีการทำ

- เริ่มจากการผสมแป้งเผือก โดยการนำแป้งข้าวเหนียวใส่ลงไปในชามผสม ตามด้วยแป้งมัน เผือกนึ่งบด และน้ำเปล่า จากนั้นนวดจนเข้ากันและพักไว้ จากนั้นผสมแป้งฟักทอง และใบเตยด้วยวิธีเดียวกัน 
Tip… แป้งที่เข้ากันดีคือนวดจนแป้งไม่ติดมือค่ะ ถ้าตอนนวดรู้สึกว่าแป้งแห้งไปก็สามารถเติมน้ำเพิ่มได้ แล้วนวดต่อค่ะ 
- หลังจากที่ผสมแป้งครบหมดทั้งสามตัวแล้ว ปั้นแป้งให้เป็นลูกกลม ๆ จนหมด พักไว้ 
Tip… - ใช้แป้งข้าวเหนียวโรยถาดก่อนปั้นแป้งบัวลอยลงไป เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งติดกันค่ะ


 
- ใช้ผ้าสะอาดคุมแป้งที่ยังไม่ได้ปั้นไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งแห้งค่ะ 
- จากนั้นทำน้ำกะทิ โดยการนำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทหัวกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาล เกลือ และใบเตย ต้มจนเดือด และน้ำตาลละลาย ปิดไฟยกขึ้นพักไว้ 
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำเปล่าลงไป (ปริมาณพอสำหรับลวกบัวลอย) รอจนน้ำเดือด จากนั้นใส่แป้งบัวลอยที่ปั้นไว้ลงไป ต้มจนสุก ใช้กระชอนตักใส่น้ำเย็นทีเตรียมไว้ 



Tip… - วิธีเช็คสุกคือ แป้งบัวลอยที่จะลอยขึ้นเหนือน้ำ ก็แปลว่าสุกแล้วค่ะ
 - การนำแป้งบัวลอยที่ต้มแล้วไปแช่น้ำเย็น จะทำให้แป้งบัวลอยเหนียวนุ่ม ไม่เละค่ะ 
- นำบัวลอยใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ ตักน้ำกะทิที่ต้มไว้ราดลงไป โรยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟค่ะ
 



ตัวอย่างขั้นตอนวิธีการทำ





ที่มา : https://youtu.be/fsmLi3Wy5bk
          https://www.wongnai.com/recipes/bua-loi-sam-sa-hai




2.ครองแครงนมสด

วัตถุดิบ

1. แป้งมัน 1 ถ้วย 
2. แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย 
3. น้ำอัญชันร้อน ๆ 1 ถ้วยตวง (สีฟ้าจากดอกอัญชัน) 
4. แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย 
5. น้ำใบเตยร้อน ๆ 1 ถ้วยตวง (สีเขียวจากใบเตย) 
6. แป้งมัน 1 ถ้วย 
7. แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย 
8. น้ำต้มบีทรูทร้อน ๆ 1 ถ้วยตวง (สีชมพูจากบีทรูท) 
9. นมข้นจืด ตรามะลิ โปรเฟสชั่นแนล 200 มิลลิลิตร 
10. นมสด 500 มิลลิลิตร 
11. นมข้นหวาน ตรามะลิ 1 1/4  ถ้วย 
12 เกลือป่น 1 ช้อนชา 
13. งาขาวคั่ว 1/4 ถ้วย หรือมากน้อยตามชอบ  
14. ใบเตยหอม 3 ใบ 


วิธีการทำ

1. เทแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันลงในชามผสม แล้วคนให้พอเข้ากัน 
2. จากนั้นเทน้ำดอกอัญชันร้อนจัดลงไป คนให้เข้ากัน พอส่วนผสมแป้งกับน้ำเข้ากันดีประมาณหนึ่ง หยุดคนแล้วเปลี่ยนไปใช้มือนวดแทน นวดให้แป้งจับตัวเป็นก้อนนุ่มเข้ากันดี จากนั้นเอาพลาสติกแรปปิดเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวแป้งแห้ง พักไว้ Tip : ระหว่างนวดให้หมั่นเอาแป้งมันทามือบ่อย ๆ ไม่งั้นแป้งจะติดมือค่ะ 


                      


3. ทำแป้งครองแครงสีชมพูและสีเขียวต่อ ตามขั้นตอนของแป้งสีน้ำเงินเลยค่ะ 
4. พอทำแป้งครบทั้งสาม 3 สีแล้ว ก็มาเริ่มปั้นตัวครองแครงโดยการแบ่งแป้งเป็น 4 ก้อน แล้วคลึงแป้งแต่ละก้อนให้เป็นเส้นยาว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. คลึงเสร็จก็เอาแป้งมันโรยบาง ๆ ให้ทั่วเส้น เสร็จแล้วใช้มีดคม ๆ ตัดแป้งเป็นชิ้นเล็ก ๆ 
5. นำแป้งครองแครงแต่ละชิ้นมากดลงบนพิมพ์ครองแครงให้แป้งมีรอยบากสวยงาม โดยก่อนกดให้โรยแป้งมันลงบนพิมพ์ครองแครงสักหน่อย เพื่อกันแป้งติดพิมพ์ พักไว้บนจานโดยคลุมพลาสติกแรปไว้เพื่อไม่ให้แป้งครองแครงแห้ง 6. ทำนมสดโดยเริ่มจากตั้งหม้อบนเตา เทนมสด, นมข้นจืด ตรามะลิ โปรเฟสชั่นแนล และนมข้นหวาน ตรามะลิ ลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว, เกลือป่น และใบเตยหอม เปิดไฟเตาเป็นไฟกลาง คนไปเรื่อย ๆ เป็นระยะ ๆ ให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี เสร็จแล้วยกลงจากเตา 


                   


7. ต้มครองแครงโดยตั้งหม้ออีกใบ ใส่น้ำเปล่า เปิดไฟรอจนน้ำร้อน แล้วใส่ครองแครงลงไปลวกให้สุก คน ๆ ให้ตัวแป้งกระจายไม่ติดกัน 
TIP : วิธีเช็คความสุกของแป้งคือ เวลาแป้งสุกแป้งจะลอยขึ้นมาด้านบน พอแป้งลอยแล้วก็รออีกสัก 30 วินาทีก่อนใช้กระชอนตักขึ้นมาเอาไปแช่ในน้ำเย็นเพื่อให้แป้งหยุดสุกต่อ 
8. นำครองแครงที่สุกแล้วลงไปใส่ในหม้อนมสด คนสักเล็กน้อย จากนั้นก็ตักเสิร์ฟ พร้อมโรยงาได้เลย 



ตัวอย่างขั้นตอนวิธีการทำง่ายๆ





ที่มา : https://youtu.be/1mBVvqxFEt8
          https://www.wongnai.com/recipes/krong-kraeng-with-coconut-milk



3.ขนมเปียกปูนใบเตย

วัตถุดิบ

1.แป้งข้าวเจ้า 80 กรัม  
2.แป้งเท้ายายม่อม 40 กรัม  
3.น้ำตาลทราย 200 กรัม  
4.น้ำปูนใส 600 มิลลิลิตร  
5.น้ำใบเตยคั้นสด 200 มิลลิลิตร 
6.กะทิ 200 มิลิลิตร  
7.เกลือป่น 1 ช้อนชา 
8.เนื้อมะพร้าวขูด 1 ถ้วย  
9.น้ำมันสำหรับทาพิมพ์ 



วิธีการทำ

- ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อม กับน้ำปูนใสคนให้เข้ากัน แล้วใส่ส่วนผสมที่เหลือ คือ น้ำตาลทราย น้ำใบเตยคั้น กะทิ เกลือป่น ลงไป คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย 
- นำไปกรองใส่กระทะทองเหลือง (หรือหม้อ) เพื่อกรองเศษแป้งและเศษใบเตย


                      


- นำกระทะตั้งไฟอ่อนค่ะ ถ้าไฟแรงแป้งอาจจะสุกทำให้เป็นลิ่มได้ กวนแป้งไปเรื่อย ๆ ไปในทิศทางเดียวกัน กวนความเร็วสม่ำเสมอ ใช้เวลาประมาณ 30- 40 นาทีจนกว่าตัวแป้งจะสุกเป็นมันวาวนะคะ ย้ำว่าต้องมันวาว ชิมรสแล้วแป้งไม่มีกลิ่นแป้งจึงใช้ได้ค่ะ 


                     


- นำส่วนผสมไปเทใส่พิมพ์ที่ทาน้ำมันไว้แล้ว เกลี่ยหน้าให้เรียบ ๆ นะคะ หลังจากนั้นจึงนำไปพักจนเย็นค่ะ 
- เมื่อขนมเปียกปูนของเราเย็นสนิทแล้ว นำมีดมาตัดเป็นทรงที่ต้องการได้เลยค่า เสิร์ฟพร้อมกับมะพร้าวขูดค่ะ เท่านี้ก็พร้อมฟินแล้ว

                    


ตัวอย่างขั้นตอนวิธีการทำง่ายๆ






ที่มา : https://youtu.be/eAHadJaKbqs
          https://www.wongnai.com/recipes/pandan-sweet-pudding



4.ตะโก้สาคูอัญชัน

วัตถุดิบ

1. น้ำดอกอัญชัน 500 มิลลิลิตร  
2. สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วย  
3. น้ำตาลทราย 200 กรัม  
4. ข้าวโพดหวาน ½ ถ้วย  
5. แป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ  
6. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ  
7. หัวกะทิ 400 มิลลิลิตร  
8. เกลือ 1 ช้อนชา  
9. ดอกอัญชัน สำหรับตกแต่ง  



วิธีการทำ

- นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำดอกอัญชันลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย แป้งมัน และสาคู ต้มจนสาคูสุกและกลายเป็นเม็ดใส 
- ใส่ข้าวโพดลงไป คนให้เข้ากัน และยกออกจากเตา 
- ตักสาคูใส่กระทงใบเตยประมาณ ⅔ ของถ้วย และพักไว้ให้เซตตัวในอุณหภูมิห้องประมาณ 20 นาที 


                       


- นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทหัวกะทิลงไป ตามด้วยแป้งข้าวโพด และเกลือ คนให้เข้ากัน รอจนเดือด และยกออกจากเตา 
- ตักใส่กระทงใบเตยที่ใส่สาคูเตรียมไว้ จากนั้นพักไว้ให้เซตตัวในอุณหภูมิห้องอีก 20 นาที 


                         


- ตกแต่งด้วยดอกอัญชันตามชอบ พร้อมเสิร์ฟจ้า 


                       

ตัวอย่างขั้นตอนวิธีการทำง่ายๆ





ที่มา : https://youtu.be/DdFaK8MOi0s
          https://www.wongnai.com/recipes/butterfly-pea-ta-ko


5.ขนมหม้อแกง

วัตถุดิบ

1.ถั่วเขียว 100 กรัม  
2.กะทิ 250 มิลลิลิตร 
3.ไข่เป็ด 3 ฟอง
4.น้ำตาลปี๊บ 120 กรัม 
5.ใบเตย 1 มัด 
6.หอมแดงเจียว ตามชอบ


วิธีการทำ

- แช่ถั่วเขียวในน้ำเปล่า 3 ชั่วโมง และนำไปนึ่งจนสุก 
- นำถั่วเขียวไปปั่นกับกะทิจนละเอียด 


                   


- ใส่ไข่เป็ดลงในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ และใบเตย ขยำให้เข้ากัน และน้ำตาลปี๊บละลาย 
- จากนั้นเอาใบเตยออก ใส่ถั่วเขียวปั่นลงไป และคนให้เข้ากัน
- เทใส่ถ้วย และนำไปอบด้วยเตาอบลมร้อน อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส 10 นาที



                     


- โรยหอมแดงเจียว พร้อมเสิร์ฟจ้า 


                        


ตัวอย่างขั้นตอนวิธีการทำ





ที่มา : https://youtu.be/V2_wUAT-YQM
          https://www.wongnai.com/recipes/mung-bean-thai-custard-dessert



6.บัวลอยดอกไม้มันม่วง

วัตถุดิบ

1. แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม  
2. แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ 
3. มันม่วงสุก 50 กรัม 
4. น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง  
5. แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม  
6. แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ  
7. ฟักทองสุกหั่นชิ้น 50 กรัม  
8. น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง  
9. กะทิ 2 ถ้วยตวง  
10. น้ำตาลโตนด 3 ช้อนโต๊ะ  
11. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ  
12. เกลือ 1/4 ช้อนชา  
13. ใบเตย 2 ใบ  


วิธีการทำ

- เทแป้งข้าวเหนียวลงในชามผสม ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง และมันม่วงสุกหั่นชิ้น จากนั้นใช้มือนวดแป้งและมันบดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปนวดให้แป้งติดกันและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เมื่อแป้งได้ที่แล้วใช้แร็ปคลุมเอาไว้ค่ะ 
- เทแป้งข้าวเหนียวลงในชามผสม ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง และฟักทองสุกหั่นชิ้น จากนั้นใช้มือนวดแป้งและมันบดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปนวดให้แป้งติดกันและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เมื่อแป้งได้ที่แล้วใช้แร็ปคลุมเอาไว้ค่ะ 
- นำบัวลอยมันม่วงและบัวลอยฟักทองมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ โดยให้ขนาดของบัวลอยฟักทองมีขนาดใหญ่กว่าบัวลอยมันม่วง จากนั้นนำมาติดรวมกันให้เป็นรูปดอกไม้ (ใช้แป้งสีเหลือง 1 อัน ทำเป็นเกสร และแป้งสีม่วง 5 อันทำเป็นกลีบ สำหรับดอกไม้ 1 ดอก) 
- ตั้งน้ำให้เดือดจากนั้นใส่บัวลอยมันม่วงและบัวลอยฟักทองที่ตัดเอาไว้ลงไป 


             

- เมื่อบัวลอยลอยตัวขึ้นบนน้ำให้ใช้ตะแกรงช้อนบัวลอยขึ้นจากน้ำเดือด 
- นำน้ำกะทิขึ้นตั้งไฟ เมื่อน้ำกะทิเริ่มร้อนแล้วให้ใส่น้ำตาลโตนด น้ำตาลทราย เกลือ และใบเตยลงไป คนให้เข้ากันจนน้ำกะทิร้อน ยกลงจากเตาเตรียมจัดเสิร์ฟได้เลย 


             


- ตักบัวลอยดอกไม้ขึ้นจากน้ำเชื่อมแล้วใส่ลงในถ้วย จากนั้นราดกะทิลงไปในบัวลอย เท่านี้ก็พร้อมฟินแล้วล่ะจ้า 

              

ตัวอย่างขั้นตอนวิธีการทำง่ายๆ


ที่มา : https://youtu.be/v0UTRspXT7U
          https://www.wongnai.com/recipes/flower-rice-balls-in-sweet-coconut-milk



7. วุ้นกะทิใบเตย

วัตถุดิบ

1. ใบเตยหั่นชิ้น 12 ใบ 
2. น้ำ 550 มิลลิลิตร  
3. น้ำตาลทราย 95 กรัม  
4. ผงวุ้น 5 กรัม 
5.น้ำกะทิ 200 กรัม  
6. น้ำ 200 กรัม  
7. น้ำตาลทราย 95 กรัม  
8. ผงวุ้น 5 กรัม  
9. เกลือ 1/2 ช้อนชา  

 วิธีการทำ

- นำใบเตยหั่นชิ้นปั่นกับน้ำให้พอละเอียด แล้วกรองน้ำใบเตยด้วยผ้าขาวบางและกระชอนตาถี่เพื่อให้ได้น้ำใบเตยเข้มข้น
 - นำน้ำใบเตยไปตั้งไฟ ใส่ผงวุ้น คนจนผงวุ้นละลายจนหมด จึงจะใส่น้ำตาล คนจนน้ำตาลละลาย 
- เทใส่พิมพ์ ช้อนฟองออกเพื่อให้หน้าของวุ้นเรียบ นำไปพักอุณหภูมิห้อง หรือตู้เย็นเพื่อให้วุ้นเซตตัว 


 

- ตั้งหม้อไฟกลาง ใส่กะทิและน้ำลงไป ใส่ผงวุ้น คนจนผงวุ้นละลายจนหมด จึงจะใส่น้ำตาลและเกลือ คนจนละลาย 
- นำไปเทใส่บนวุ้นใบเตยที่เซตตัวแล้ว ช้อนฟองออกเพื่อให้หน้าของวุ้นเรียบ นำไปพักให้เย็นลงในตู้เย็นเพื่อให้วุ้นเซตตัว 

  

- เมื่อวุ้นแข็งและเซตตัวแล้ว นำมีดแซะที่ขอบเพื่อให้วุ้นหลุดจากพิมพ์ได้ง่าย เมื่อนำออกจากพิมพ์แล้วใช้ใบมีดหยักหั่นวุ้นเป็นชิ้นมาจัดเสิร์ฟ ก็พร้อมทานได้แล้วค่า

  

ตัวอย่างขั้นตอนวิธีการทำง่ายๆ


ที่มา : https://youtu.be/PMY8lXiQdVY
         https://www.wongnai.com/recipes/coconut-milk-and-pandan-jelly